โดยส่วนตัวดิฉันคิดว่า การสื่อสารภาษาไทยทางการพูด เป็นเรื่องแรกที่เราควรจะต้องตระหนักและให้ความใส่ใจ ทุกอย่างเริ่มมาจาก “คำพูด” ของเรา เพราะการที่เราสื่อคำพูดดีๆออกมาให้ผู้อื่น เราสามารถผูกมิตรได้ การเอาชนะใจด้วยคำพูดดีๆเป็นเรื่องที่สามารถทำได้ง่ายๆภาษาไทยมีจิตวิญญาณ ถ้าเราพูดดีก็ทำให้เราเจริญ มีความสุขทั้งการงานและเรื่องส่วนตัว
อยากให้เยาวชนไทยหันมาอ่านวรรณกรรมดีๆ เพราะในวรรณกรรมจะมีคำที่ไพเราะมาก หากเรามีข้อมูลหรือมีความรู้ทางด้านงานวรรณคดีดีๆ เราก็สามารถหยิบมาใช้ได้ หรืออาจจะปรับใช้ หรืออาจสร้างถ้อยคำใหม่ๆ เพราะเราอ่านมากก็จะมีคลังคำเก็บไว้มาก ไม่ว่าจะเขียนให้คนในวันเกิด วันแต่งงาน ผู้ได้รับจะเกิดความเบิกบาน เพราะภาษาไทยเรามันดิ้นได้ มันมีชีวิตชีวามันหล่อหลอมจิตใจเราให้มีความสุข ยกตัวอย่างเช่นเราอ่านบทกวีของอาจารย์เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ เราจะมีความสุขมากๆ มันหลอมรวมความรู้สึกดีๆเข้าไปในจิตใจเรา
ในฐานะที่มีอาชีพเป็นพิธีกรก็รู้สึกว่าเราต้องใช้ภาษาไทยให้เหมาะสมกันกาลเทศะ โดยเฉพาะเวลาที่เราจะเข้าหาผู้ใหญ่หรือตอนสัมภาษณ์งานในสถานที่ราชการ เพราะภาษาไทยเราค่อนข้างจะมีวรรณะ ถ้าเราใช้ได้ดีจะส่อให้เห็นกิริยามารยาท ที่มา การศึกษา
ดิฉันไม่ปฏิเสธการสื่อสารของคนวัยใหม่ เพราะรู้ว่าเมื่อยุคสมัยเปลี่ยนไป ภาษาที่เขาใช้สื่อสารที่เป็นแฟชั่นก็จะเปลี่ยนไป หรือในกรณีที่พิธีกร ดีเจ ในยุคนี้ใช้ภาษาแปลกๆในการสื่อสาร ก็มองว่ามันอยู่กับกลุ่มเป้าหมายที่ฟังอยู่ บางทีมันก็เป็นแค่แฟชั่น ผู้ใหญ่ทั้งหลายควรจะเปิดใจให้กว้าง ไม่ควรต่อต้านเพราะคิดว่าเขาใช้เฉพาะกลุ่มเท่านั้นมันโดนใจวัยรุ่น ไม่นานก็จะหายไปเองเวลาที่ดีเจหรือพิธีกรรุ่นใหม่พูดกับผู้ใหญ่เขาก็มีสัมมาคารวะ ใช้ถูกต้องตามควร
แต่สิ่งที่น่าเป็นห่วงสำหรับคนรุ่นใหม่ที่ใช้ภาษาไทยก็คือ การสื่อสารระหว่างเด็กกับผู้ใหญ่ คือเวลาเด็กสื่อสารนี่ไม่รู้ว่าผู้ใหญ่จะเข้าใจหรือเปล่า เพราะความหมายของคนในยุคหนึ่งอาจจะไม่เหมือนความหมายของคนอีกยุค บางทีพูดแบบเดียวกันแต่มีการตีความหมายไปคนละแบบ หรืออาจจะสวนทางกัน ไม่อยากให้เกิดขึ้นกับผู้ใหญ่และคนวัยใหม่ เพราะอาจเกิดช่องว่างไม่เข้าใจกัน
นอกจากภาษาไทยที่เป็นเอกลักษณ์ ดิฉันมีความภูมิใจในศิลปวัฒนธรรมไทยเรามาก คนไทยเรามีวิถีชีวิตที่เป็นตัวของตัวเอง เวลาที่ได้นุ่งผ้าถุงจะรู้สึกภูมิและมีความสุขมาก มีอะไรบางอย่างที่หล่อหลอมเรากับเครื่องแต่งกาย ชุดไทยที่เรารัก เวลาที่เราใส่ผ้าถุงแล้วเดินเข้าไปในงานอะไรสักอย่างในโรงแรม ฝรั่งจะคิดว่าเราเป็นคนต่างชาติ บางทีเราไปต่างประเทศ เราเห็นคนต่างชาติใส่ผ้าถุง เราก็จะคุยกับเขา เขาก็จะบอกที่มาของผ้าถุงไทยว่าซื้อมาจากที่ไหน เราจะดีใจและภูมิใจมาก
ดิฉันอยากเชิญชวนให้คนไทยรุ่นใหม่อ่านหนังสือไทยมากๆ โดยเฉพาะวรรณคดีไทย และรักษาภาษาไทยเราไว้ให้อยู่ในความเหมาะสมสนองพระบรมราชโองการของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่ทรงเป็นห่วงเรื่องการใช้ภาษาไทย
รักความเป็นไทยต้องอนุรักษ์เอกลักษณ์ของไทยเราไว้ให้ยั่งยืน
อยากให้เยาวชนไทยหันมาอ่านวรรณกรรมดีๆ เพราะในวรรณกรรมจะมีคำที่ไพเราะมาก หากเรามีข้อมูลหรือมีความรู้ทางด้านงานวรรณคดีดีๆ เราก็สามารถหยิบมาใช้ได้ หรืออาจจะปรับใช้ หรืออาจสร้างถ้อยคำใหม่ๆ เพราะเราอ่านมากก็จะมีคลังคำเก็บไว้มาก ไม่ว่าจะเขียนให้คนในวันเกิด วันแต่งงาน ผู้ได้รับจะเกิดความเบิกบาน เพราะภาษาไทยเรามันดิ้นได้ มันมีชีวิตชีวามันหล่อหลอมจิตใจเราให้มีความสุข ยกตัวอย่างเช่นเราอ่านบทกวีของอาจารย์เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ เราจะมีความสุขมากๆ มันหลอมรวมความรู้สึกดีๆเข้าไปในจิตใจเรา
ในฐานะที่มีอาชีพเป็นพิธีกรก็รู้สึกว่าเราต้องใช้ภาษาไทยให้เหมาะสมกันกาลเทศะ โดยเฉพาะเวลาที่เราจะเข้าหาผู้ใหญ่หรือตอนสัมภาษณ์งานในสถานที่ราชการ เพราะภาษาไทยเราค่อนข้างจะมีวรรณะ ถ้าเราใช้ได้ดีจะส่อให้เห็นกิริยามารยาท ที่มา การศึกษา
ดิฉันไม่ปฏิเสธการสื่อสารของคนวัยใหม่ เพราะรู้ว่าเมื่อยุคสมัยเปลี่ยนไป ภาษาที่เขาใช้สื่อสารที่เป็นแฟชั่นก็จะเปลี่ยนไป หรือในกรณีที่พิธีกร ดีเจ ในยุคนี้ใช้ภาษาแปลกๆในการสื่อสาร ก็มองว่ามันอยู่กับกลุ่มเป้าหมายที่ฟังอยู่ บางทีมันก็เป็นแค่แฟชั่น ผู้ใหญ่ทั้งหลายควรจะเปิดใจให้กว้าง ไม่ควรต่อต้านเพราะคิดว่าเขาใช้เฉพาะกลุ่มเท่านั้นมันโดนใจวัยรุ่น ไม่นานก็จะหายไปเองเวลาที่ดีเจหรือพิธีกรรุ่นใหม่พูดกับผู้ใหญ่เขาก็มีสัมมาคารวะ ใช้ถูกต้องตามควร
แต่สิ่งที่น่าเป็นห่วงสำหรับคนรุ่นใหม่ที่ใช้ภาษาไทยก็คือ การสื่อสารระหว่างเด็กกับผู้ใหญ่ คือเวลาเด็กสื่อสารนี่ไม่รู้ว่าผู้ใหญ่จะเข้าใจหรือเปล่า เพราะความหมายของคนในยุคหนึ่งอาจจะไม่เหมือนความหมายของคนอีกยุค บางทีพูดแบบเดียวกันแต่มีการตีความหมายไปคนละแบบ หรืออาจจะสวนทางกัน ไม่อยากให้เกิดขึ้นกับผู้ใหญ่และคนวัยใหม่ เพราะอาจเกิดช่องว่างไม่เข้าใจกัน
นอกจากภาษาไทยที่เป็นเอกลักษณ์ ดิฉันมีความภูมิใจในศิลปวัฒนธรรมไทยเรามาก คนไทยเรามีวิถีชีวิตที่เป็นตัวของตัวเอง เวลาที่ได้นุ่งผ้าถุงจะรู้สึกภูมิและมีความสุขมาก มีอะไรบางอย่างที่หล่อหลอมเรากับเครื่องแต่งกาย ชุดไทยที่เรารัก เวลาที่เราใส่ผ้าถุงแล้วเดินเข้าไปในงานอะไรสักอย่างในโรงแรม ฝรั่งจะคิดว่าเราเป็นคนต่างชาติ บางทีเราไปต่างประเทศ เราเห็นคนต่างชาติใส่ผ้าถุง เราก็จะคุยกับเขา เขาก็จะบอกที่มาของผ้าถุงไทยว่าซื้อมาจากที่ไหน เราจะดีใจและภูมิใจมาก
ดิฉันอยากเชิญชวนให้คนไทยรุ่นใหม่อ่านหนังสือไทยมากๆ โดยเฉพาะวรรณคดีไทย และรักษาภาษาไทยเราไว้ให้อยู่ในความเหมาะสมสนองพระบรมราชโองการของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่ทรงเป็นห่วงเรื่องการใช้ภาษาไทย
รักความเป็นไทยต้องอนุรักษ์เอกลักษณ์ของไทยเราไว้ให้ยั่งยืน