ภาษาไทยทุกภาษาในโลกล้วนต้องมีการเปลี่ยนแปลง…
ภาษาทุกภาษาในโลกล้วนต้องวิวัฒนาการไปตามสภาพของสังคมเพราะความเจริญก้าวหน้าทางวัตถุและความเจริญก้าวหน้าในทุกๆ ด้านต่างก็มีความใกล้เคียงกันมาก
ดังนั้น อิทธิพลของภาษาจึงต้องให้ผลซึ่งกันและกันกับความเจริญก้าวหน้าทุกด้าน แม้กระทั่งภาษาไทยของเราจะเห็นความเปลี่ยนแปลงมาตั้งแต่มีการใช้ภาษาไทยในสมัยสุโขทัยของพ่อขุนรามคำแหง สมัยอยุธยา รัตนโกสินทร์ตอนต้น ก็มีการพัฒนาและเปลี่ยนแปลงไปตลอดเวลา จะมาบอกว่า ภาษาสมัยพ่อขุนรามคำแหงดีที่สุดหรือ…
ภาษาของยาขอบดีที่สุดหรือ… ทุกอย่างนั้นขึ้นอยู่กับรสนิยมแล้วต้องมีวิวัฒนาการ การเปลี่ยนแปลง ดังนั้น จงอย่าบอกว่าภาษาต้องไม่เปลี่ยนแปลง ภาษาต้องหยุดอยู่กับที่ เป็นคนไทยต้องพูดจาให้ถูกแบบแผน ต้องสละสลวย อ่านอักขระให้ถูกต้อง น้ำเน่ามากกว่า...
จริงอยู่ นักวิชาการทางด้านภาษาไทยอาจจะเรียกร้องให้คนไทยเราอนุรักษ์ภาษาไทย แต่เราต้องมาทำความเข้าใจกันว่า ระหว่างภาษาไทยตามแบบแผน ตามมาตรฐานมีถ้อยคำที่สวยงามสละสลวยนั้นเป็นภาษาอีกแบบหนึ่ง ก็สมควรที่จะอนุรักษ์ไว้ สมควรที่จะมีกลุ่มคนที่จะอนุรักษ์ภาษานั้นไว้
แต่รสนิยมการดำรงไว้ซึ่งภาษาอันสวยงามนั้นย่อมเปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัย เช่น บางคนอาจจะชอบกวีนิพนธ์ของท่านอังคาร กัลป์ยาณพงศ์ เนื่องจากอ่านแล้วสะใจ มีความเป็นเซอเรียลิสติกส์ บางคนอาจจะชอบกวีนิพนธ์ของอาจารย์เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ ที่มีความสวยงาม ก็เป็นเรื่องของรสนิยม
ในวงการศิลปะวาดรูปก็มีพวกกลุ่มอนุรักษ์งานศิลปะ แล้วก็ยอมรับว่าที่เขาอนุรักษ์ไว้นั้นถูกต้องแล้ว แต่ว่าไม่ทันใจต่อคนรุ่นใหม่ มันไม่สะใจต่อคนรุ่นใหม่ ดังนั้นศิลปะไทยมันต้องมีวิวัฒนาการ มันต้องมีการพัฒนา มีศิลปะไทยร่วมสมัยเกิดขึ้น จิตรกรรมฝาผนังไทยสมัยโบราณเปลี่ยนมาเป็นจิตรกรรมสมัยใหม่ก็มีค่าตามยุคสมัย
วิธีคิดของคนรุ่นใหม่อาจเปลี่ยนไป เขาอาจจะคิดอะไรแปลกออกไปถามว่ามีความเป็นไทยมั้ย มี…แล้วมีความเป็นไทยที่เป็นสมัยใหม่ มีความงดงาม มีสุนทรียภาพ แต่คนรุ่นใหม่ไปดูศิลปะรุ่นเก่า บางคนอาจจะรับไม่ได้ เขาจึงพัฒนามาสู่ยุคของเขา จิตรกรรม สถาปัตยกรรม ประติมากรรม นาฏกรรม ทุกอย่างไม่ได้หยุดอยู่กับที่ มันต้องมีการพัฒนา และแน่นอนภาษาไทยก็ต้องมีการพัฒนา เปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัย ดังนั้นเราจะไปเรียกร้องอะไรกันนักกันหนา บ้างบอกเด็กสมัยนี้พูดจาติดฝรั่ง เกาหลี มันก็เป็นเรื่องของยุคสมัยมันไม่ถึงกับว่าพูดแล้วประเทศไทยเราล่มสลาย เราต้องใจกว้าง แยกแยะให้ออกว่านี่เป็นเพียงเป็นสิ่งที่แวะเวียนเข้ามาเป็นวัฏจักร เป็นเพียงคำพูดในสมัยนี้ของเด็กก็เท่านั้น
ผู้ใหญ่นักอนุรักษ์ภาษาไทยต้องทำความเข้าใจว่า เด็กสมัยนี้เขาต้องการความรวดเร็ว การใช้ภาษาในคอมพิวเตอร์ การแชท การออนไลน์นั้น มันเป็นอาหารทางอารมณ์ของเด็ก…
ผู้ใหญ่ที่บ่นวัยรุ่นเรื่องการใช้ภาษาไทยแบบใหม่ทั้งหลาย จงอย่าได้เป็นผู้ใหญ่ที่มืดบอดทางการมองเห็นว่าอะไรก็ต้องเป็นแบบมาตรฐาน ไม่ได้หรอก มันต้องยอมรับกระบวนการเปลี่ยนแปลงไปตามความคิดของเด็กรุ่นใหม่
การเล่นกับภาษามันก็ขึ้นอยู่กับวัยด้วย ในวัยเด็กผมยอมรับว่าผมไม่ชอบท่องภาษาที่สละสลวยเลย ไม่ชอบท่องวรรณคดีไทย โคตรเกลียดเลย มีความรู้สึกว่าน้ำเน่า!!! แต่มาถึงวันนี้ ผมชอบและรักภาษาวรรณคดี มีความรู้สึกว่า โอ้โห…ภาษาไทยนี่สวยมาก อ่านแล้วได้อารมณ์สุนทรี
ทุกอย่างต้องดูที่ความเหมาะสมและแยกแยะให้ดี อย่าไปตื่นเต้นกับมัน อย่างที่บอกมาแล้วตั้งแต่ต้นว่าประเทศชาติของเรามีพัฒนาการการเปลี่ยนแปลงทางด้านภาษามาตั้งแต่สมัยสุโขทัย อยุธยา รัตนโกสินทร์ตอนต้นตอนปลาย ในเมื่อเราได้รับอิทธิพลมาจากภาษาเขมร บาลี สันสกฤต แล้วทำไมเราจะรับอิทธิพลของภาษาจากเด็กไทยสมัยใหม่ที่เขามีสิทธิเสรีภาพไม่ได้ สุดท้ายเราก็จะเห็นว่าภาษามีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา คนอนุรักษ์ภาษาก็เป็นอีกพวก คนสร้างสรรค์ภาษาสมัยใหม่ก็เป็นอีกพวก คนที่เล่นคำเล่นภาษาให้มันสนุกสนานเอามัน(ส์) ก็เป็นอีกพวก เหมือนคนที่สร้างสรรค์เพลงก็จะมีแร็พ ฮิพฮอป โมเดิร์นอาร์ต ป็อปอาร์ต อาร์แอนบี ร็อค อินดี้ อาร์เทอร์เนทีฟ มีความมีหลากหลาย มีสีสัน มีอารมณ์
แต่ในที่สุดผมเชื่อว่าเราต้องกลับมายังรากเหง้าของเราเพราะทุกคนนั้นมีความรักในความเป็นไทย รักในภาษาไทยของเราอยู่แล้ว เพราะภาษาคือสื่อที่จะเข้าถึงความเข้าใจ เข้าถึงหัวใจของผู้ร่วมสนทนาและผู้ร่วมเรียนรู้…ความรักในการใช้ภาษาจึงมีอยู่ในหัวใจทุกคน
ภาษาทุกภาษาในโลกล้วนต้องวิวัฒนาการไปตามสภาพของสังคมเพราะความเจริญก้าวหน้าทางวัตถุและความเจริญก้าวหน้าในทุกๆ ด้านต่างก็มีความใกล้เคียงกันมาก
ดังนั้น อิทธิพลของภาษาจึงต้องให้ผลซึ่งกันและกันกับความเจริญก้าวหน้าทุกด้าน แม้กระทั่งภาษาไทยของเราจะเห็นความเปลี่ยนแปลงมาตั้งแต่มีการใช้ภาษาไทยในสมัยสุโขทัยของพ่อขุนรามคำแหง สมัยอยุธยา รัตนโกสินทร์ตอนต้น ก็มีการพัฒนาและเปลี่ยนแปลงไปตลอดเวลา จะมาบอกว่า ภาษาสมัยพ่อขุนรามคำแหงดีที่สุดหรือ…
ภาษาของยาขอบดีที่สุดหรือ… ทุกอย่างนั้นขึ้นอยู่กับรสนิยมแล้วต้องมีวิวัฒนาการ การเปลี่ยนแปลง ดังนั้น จงอย่าบอกว่าภาษาต้องไม่เปลี่ยนแปลง ภาษาต้องหยุดอยู่กับที่ เป็นคนไทยต้องพูดจาให้ถูกแบบแผน ต้องสละสลวย อ่านอักขระให้ถูกต้อง น้ำเน่ามากกว่า...
จริงอยู่ นักวิชาการทางด้านภาษาไทยอาจจะเรียกร้องให้คนไทยเราอนุรักษ์ภาษาไทย แต่เราต้องมาทำความเข้าใจกันว่า ระหว่างภาษาไทยตามแบบแผน ตามมาตรฐานมีถ้อยคำที่สวยงามสละสลวยนั้นเป็นภาษาอีกแบบหนึ่ง ก็สมควรที่จะอนุรักษ์ไว้ สมควรที่จะมีกลุ่มคนที่จะอนุรักษ์ภาษานั้นไว้
แต่รสนิยมการดำรงไว้ซึ่งภาษาอันสวยงามนั้นย่อมเปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัย เช่น บางคนอาจจะชอบกวีนิพนธ์ของท่านอังคาร กัลป์ยาณพงศ์ เนื่องจากอ่านแล้วสะใจ มีความเป็นเซอเรียลิสติกส์ บางคนอาจจะชอบกวีนิพนธ์ของอาจารย์เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ ที่มีความสวยงาม ก็เป็นเรื่องของรสนิยม
ในวงการศิลปะวาดรูปก็มีพวกกลุ่มอนุรักษ์งานศิลปะ แล้วก็ยอมรับว่าที่เขาอนุรักษ์ไว้นั้นถูกต้องแล้ว แต่ว่าไม่ทันใจต่อคนรุ่นใหม่ มันไม่สะใจต่อคนรุ่นใหม่ ดังนั้นศิลปะไทยมันต้องมีวิวัฒนาการ มันต้องมีการพัฒนา มีศิลปะไทยร่วมสมัยเกิดขึ้น จิตรกรรมฝาผนังไทยสมัยโบราณเปลี่ยนมาเป็นจิตรกรรมสมัยใหม่ก็มีค่าตามยุคสมัย
วิธีคิดของคนรุ่นใหม่อาจเปลี่ยนไป เขาอาจจะคิดอะไรแปลกออกไปถามว่ามีความเป็นไทยมั้ย มี…แล้วมีความเป็นไทยที่เป็นสมัยใหม่ มีความงดงาม มีสุนทรียภาพ แต่คนรุ่นใหม่ไปดูศิลปะรุ่นเก่า บางคนอาจจะรับไม่ได้ เขาจึงพัฒนามาสู่ยุคของเขา จิตรกรรม สถาปัตยกรรม ประติมากรรม นาฏกรรม ทุกอย่างไม่ได้หยุดอยู่กับที่ มันต้องมีการพัฒนา และแน่นอนภาษาไทยก็ต้องมีการพัฒนา เปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัย ดังนั้นเราจะไปเรียกร้องอะไรกันนักกันหนา บ้างบอกเด็กสมัยนี้พูดจาติดฝรั่ง เกาหลี มันก็เป็นเรื่องของยุคสมัยมันไม่ถึงกับว่าพูดแล้วประเทศไทยเราล่มสลาย เราต้องใจกว้าง แยกแยะให้ออกว่านี่เป็นเพียงเป็นสิ่งที่แวะเวียนเข้ามาเป็นวัฏจักร เป็นเพียงคำพูดในสมัยนี้ของเด็กก็เท่านั้น
ผู้ใหญ่นักอนุรักษ์ภาษาไทยต้องทำความเข้าใจว่า เด็กสมัยนี้เขาต้องการความรวดเร็ว การใช้ภาษาในคอมพิวเตอร์ การแชท การออนไลน์นั้น มันเป็นอาหารทางอารมณ์ของเด็ก…
ผู้ใหญ่ที่บ่นวัยรุ่นเรื่องการใช้ภาษาไทยแบบใหม่ทั้งหลาย จงอย่าได้เป็นผู้ใหญ่ที่มืดบอดทางการมองเห็นว่าอะไรก็ต้องเป็นแบบมาตรฐาน ไม่ได้หรอก มันต้องยอมรับกระบวนการเปลี่ยนแปลงไปตามความคิดของเด็กรุ่นใหม่
การเล่นกับภาษามันก็ขึ้นอยู่กับวัยด้วย ในวัยเด็กผมยอมรับว่าผมไม่ชอบท่องภาษาที่สละสลวยเลย ไม่ชอบท่องวรรณคดีไทย โคตรเกลียดเลย มีความรู้สึกว่าน้ำเน่า!!! แต่มาถึงวันนี้ ผมชอบและรักภาษาวรรณคดี มีความรู้สึกว่า โอ้โห…ภาษาไทยนี่สวยมาก อ่านแล้วได้อารมณ์สุนทรี
ทุกอย่างต้องดูที่ความเหมาะสมและแยกแยะให้ดี อย่าไปตื่นเต้นกับมัน อย่างที่บอกมาแล้วตั้งแต่ต้นว่าประเทศชาติของเรามีพัฒนาการการเปลี่ยนแปลงทางด้านภาษามาตั้งแต่สมัยสุโขทัย อยุธยา รัตนโกสินทร์ตอนต้นตอนปลาย ในเมื่อเราได้รับอิทธิพลมาจากภาษาเขมร บาลี สันสกฤต แล้วทำไมเราจะรับอิทธิพลของภาษาจากเด็กไทยสมัยใหม่ที่เขามีสิทธิเสรีภาพไม่ได้ สุดท้ายเราก็จะเห็นว่าภาษามีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา คนอนุรักษ์ภาษาก็เป็นอีกพวก คนสร้างสรรค์ภาษาสมัยใหม่ก็เป็นอีกพวก คนที่เล่นคำเล่นภาษาให้มันสนุกสนานเอามัน(ส์) ก็เป็นอีกพวก เหมือนคนที่สร้างสรรค์เพลงก็จะมีแร็พ ฮิพฮอป โมเดิร์นอาร์ต ป็อปอาร์ต อาร์แอนบี ร็อค อินดี้ อาร์เทอร์เนทีฟ มีความมีหลากหลาย มีสีสัน มีอารมณ์
แต่ในที่สุดผมเชื่อว่าเราต้องกลับมายังรากเหง้าของเราเพราะทุกคนนั้นมีความรักในความเป็นไทย รักในภาษาไทยของเราอยู่แล้ว เพราะภาษาคือสื่อที่จะเข้าถึงความเข้าใจ เข้าถึงหัวใจของผู้ร่วมสนทนาและผู้ร่วมเรียนรู้…ความรักในการใช้ภาษาจึงมีอยู่ในหัวใจทุกคน