ในการจัดการเรียนการสอน ครูผู้สอนต้องใช้ทักษะการสื่อสารหลายทักษะ
ร่วมกัน เพื่อจัดการเรียนรู้ให้ผู้เรียนมีความรู้ มีทักษะ และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ตามที่กำหนดไว้ และนอกเหนือจากการสอนแล้ว ครูต้องทำงาน
ด้านอื่นๆ ในสถานศึกษาด้วย จะเห็นได้ว่าการทำงานของครู จะต้องอาศัย
ทักษะการสื่อสาร ซึ่งประกอบด้วย "การฟัง การอ่าน การพูด และการเขียน"
1. ทักษะการฟัง (Listening Skills) ครูจะใช้เพื่อ
- เก็บและรวบรวมข้อมูล
- แลกเปลี่ยนข้อมูล
- รับฟีดแบค
- ให้เข้าใจเรื่องราว
- เรียนรู้เรื่องราว
- สร้างสายสัมพันธ์
- ได้ทราบมุมมองที่แตกต่าง
- เพื่อให้การช่วยเหลือ
- ขจัดข้อขัดแย้ง
- สร้างความไว้วางใจ
2. ทักษะการอ่าน (Reading Skills) ครูจะใช้เพื่อ
- แสวงหาความรู้ ค้นหาคำตอบ
- ตรวจสอบงานของนักเรียน
- ทำความเข้าใจเนื้อหา
- เพิ่มเติมองค์ความรู้
- รับรู้วิทยาการก้าวหน้า
- กระตุ้นความคิดสร้างสรรค์
- ให้เห็นหลากหลายมุมมอง
- เกาะติดกระแส ทันสมัยต่อเหตุการณ์
- ฝึกทักษะการคิด
3. ทักษะการพูด (Speaking Skills) ครูจะใช้เมื่อ
- ให้/ถ่ายทอด/แลกเปลี่ยนข้อมูล
- อธิบายสร้างความกระจ่าง
- สร้างบรรยากาศ
- สร้างสายสัมพันธ์
- ให้ฟีดแบค
- ให้กำลังใจ
- ถามกระตุ้น
- นำเสนอมุมมองแตกต่าง
- โน้มน้าว
4. ทักษะการเขียน (Writing Skills) ครูจะใช้เมื่อ
- สร้างความเข้าใจและความน่าสนใจ
- สร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ เช่น แนวคิดหลักการ องค์ความรู้ หนังสือ
- ถ่ายทอดเรื่องราว
- บันทึกเรื่องราว
- เล่าเรื่อง อธิบาย
- แสดงความคิดเห็น
- แนะนำให้คำปรึกษา
- เก็บและรวบรวมข้อมูล
- แลกเปลี่ยนข้อมูล
- รับฟีดแบค
- ให้เข้าใจเรื่องราว
- เรียนรู้เรื่องราว
- สร้างสายสัมพันธ์
- ได้ทราบมุมมองที่แตกต่าง
- เพื่อให้การช่วยเหลือ
- ขจัดข้อขัดแย้ง
- สร้างความไว้วางใจ
2. ทักษะการอ่าน (Reading Skills) ครูจะใช้เพื่อ
- แสวงหาความรู้ ค้นหาคำตอบ
- ตรวจสอบงานของนักเรียน
- ทำความเข้าใจเนื้อหา
- เพิ่มเติมองค์ความรู้
- รับรู้วิทยาการก้าวหน้า
- กระตุ้นความคิดสร้างสรรค์
- ให้เห็นหลากหลายมุมมอง
- เกาะติดกระแส ทันสมัยต่อเหตุการณ์
- ฝึกทักษะการคิด
3. ทักษะการพูด (Speaking Skills) ครูจะใช้เมื่อ
- ให้/ถ่ายทอด/แลกเปลี่ยนข้อมูล
- อธิบายสร้างความกระจ่าง
- สร้างบรรยากาศ
- สร้างสายสัมพันธ์
- ให้ฟีดแบค
- ให้กำลังใจ
- ถามกระตุ้น
- นำเสนอมุมมองแตกต่าง
- โน้มน้าว
4. ทักษะการเขียน (Writing Skills) ครูจะใช้เมื่อ
- สร้างความเข้าใจและความน่าสนใจ
- สร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ เช่น แนวคิดหลักการ องค์ความรู้ หนังสือ
- ถ่ายทอดเรื่องราว
- บันทึกเรื่องราว
- เล่าเรื่อง อธิบาย
- แสดงความคิดเห็น
- แนะนำให้คำปรึกษา
"การสื่อสารในการเรียนการสอน"
1. กระบวนการสื่อสารในการเรียนการสอน ประกอบด้วย..
ครู, เนื้อหาบทเรียนหรือกิจกรรมต่างๆ, ช่องทางสื่อสาร, ผู้เรียน, สิ่งรบกวน
2. ลักษณะการสื่อสารระหว่างครูผู้สอนกับผู้เรียน เป็นการสื่อสารเพื่อให้เกิด
ความรู้ กล่าวคือ.. เป็นการถ่ายทอดความรู้ ความสามารถ ประสบการณ์
ตลอดจนการอบรมสั่งสอน อาจเป็นการสื่อสารแบบทางเดียวหรือสองทาง
ควรมีการเน้นหรือทบทวนคำสั่งหรือข้อตกลง เพื่อให้เกิดความจำ
และความเข้าใจที่ถูกต้อง การสื่อสารควรมีลักษณะสร้างแรงบันดาลใจ
เป็นกันเอง แสดงถึงความเอื้ออาทร และมีเจตคติที่ดีต่อกัน
3. การปรับใช้การสื่อสารกับกระบวนการเรียนการสอนให้มีประสิทธิภาพ
ครูที่มีการสื่อสารที่ดีจะช่วยให้ผู้เรียนเรียนรู้ได้อย่างมีความหมาย มีชีวิต
ชีวา มีเจตคติที่ดีต่อผู้สอนและบทเรียน เรียนรู้ได้อย่างเข้าใจ ครูผู้สอนควร
ใช้สื่อการสอนสองทางให้มากที่สุด เพื่อประเมินว่าการถ่ายทอดเนื้อหา
สาระไปสู่ผู้เรียนได้ผลอย่างไร ครูและผู้เรียนสามารถปรับกระบวนการ
สื่อสารให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์
ตัวอย่างการสื่อสารในการเรียนการสอนที่ครูใช้
คลิปวีดิโอต่อไปนี้เป็นการนำเสนอรูปแบบการสอนภาษาไทยของครูลิลลี่ ที่ใช้สื่อสารกับผู้เรียน
ตัวอย่างการสื่อสารในการเรียนการสอนที่ครูใช้
คลิปวีดิโอต่อไปนี้เป็นสื่อการสอนวิชาภาษาไทยรูปแบบหนึ่ง ที่สามารถใช้สื่อสารกับผู้เรียนได้!!
ตัวอย่าง ความล้มเหลวในการสื่อสารของครู
- ครูไม่บอกจุดประสงค์ในการเรียนการสอนให้ผู้เรียนทราบก่อนลงมือสอน
ทำให้ผู้เรียนขาดทิศทางและเป้าหมายที่ชัดเจนในการเรียนรู้เนื้อหาบทเรียน
- ครูไม่คำนึงถึงข้อจำกัดหรือขีดความสามารถของผู้เรียนแต่ละคน จึงใช้วิธี
สอนแบบเดียวกัน ทำให้ผู้เรียนบางคนเรียนรู้ไม่ทันเพื่อน
- ครูไม่สนใจที่จะจัดบรรยากาศการเรียนการสอน ให้เอื้อต่อการเรียนรู้อย่างมี
ความหมายสำหรับผู้เรียน ไม่สร้างความพร้อมให้กับผู้เรียน
- ครูไม่หาวิธีป้องกันและขจัดปัญหาสิ่งรบกวนต่างๆ
- ครูบางคนอาจใช้ภาษาไม่เหมาะกับระดับหรือวัยของผู้เรียน
ที่มาของข้อมูล >> https://www.l3nr.org/posts/300107